เทคโนโลยีการผลิตไวน์ไวน์ผลไม้น้ำส้มสายชูและเอทานอล
รหัสวิชา : MJUMOOC_0020
จำนวนการลงทะเบียน : 0 ครั้ง
  ลงทะเบียน / เข้าเรียน
กลุ่มที่
2
เริ่มเรียน 29 พฤษภาคม 2568
ถึง 31 ธันวาคม 2568
รับลงทะเบียน
1,000
ว่าง
1,000
  เจ้าของรายวิชา
อาจารย์ ดร. ณัฐต์ณิชา  สุขเกษม
ตำแหน่ง : อาจารย์
วิทยาลัยพลังงานทดแทน
  เกี่ยวกับรายวิชา

ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการและกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์จากการหมัก ได้แก่ ไวน์ผลไม้ น้ำส้มสายชู และเอทานอล เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การเลี้ยงจุลินทรีย์ที่เหมาะสมสำหรับการหมัก การควบคุมสภาวะการหมัก การผลิตไวน์จากผลไม้ชนิดต่าง ๆ การผลิตน้ำส้มสายชูจากไวน์ผลไม้ การผลิตและกลั่นเอทานอลอย่างง่าย ตลอดจนการวิเคราะห์คุณภาพผลิตภัณฑ์เบื้องต้น เพื่อเสริมสร้างความรู้พื้นฐานทางเทคโนโลยีการหมัก การประยุกต์ใช้ในระดับชุมชน และการพัฒนาไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยื

  เนื้อหา

หัวข้อวิชา เทคโนโลยีการผลิตไวน์ไวน์ผลไม้น้ำส้มสายชูและเอทานอล ประกอบด้วย

บทที่ 1 หลักการพื้นฐานในการคัดเลือกวัตถุดิบ

บทที่ 2 ไวน์และไวน์ผลไม้

บทที่ 3 กระบวนการผลิตไวน์และไวน์ผลไม้

บทที่ 4 หลักการผลิตน้ำส้มสายชูหมัก

บทที่ 5 การผลิตน้ำส้มสายชูหมัก

บทที่ 6 หลักการหมักและการกลั่นเอทานอล

บทที่ 7 ขั้นตอนและกระบวนการการผลิตเอทานอล

สรุปเนื้อหาบทเรียน

  เกณฑ์การวัดและประเมินผล

ผู้เรียนเข้าเรียนตามหัวข้อเนื้อหาและต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขจึงจะสามารถขอรับ Certificate of Completion ซึ่งเกณฑ์การประเมินผลมีดังนี้

1. ผู้เรียนต้องเข้าเรียน และทำแบบทดสอบท้ายบทเรียน(ถ้ามี) ตามเวลาที่กำหนด

2. มีความสำเร็จในการเข้าเรียนมากกว่าหรือเท่ากับ ร้อยละ 100 ของบทเรียนทั้งหมด

3. ผู้เรียนต้องทำแบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test) โดยต้องทำคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ ร้อยละ 50 ขึ้นไปของคะแนนเต็ม จึงจะถือว่าผ่านการทดสอบ โดยมีเงื่อนไขการทำแบบทดสอบดังนี้

1 ) จำนวนครั้งในการทำแบบทดสอบ : 2 ครั้ง

2 ) ระยะเวลาที่ใช้ทำแบบทดสอบ : 40 นาที

3 ) แบบทดสอบมีข้อคำถามทั้งหมด : 20 ข้อ

4 ) แบบทดสอบมีคะแนนเต็มทั้งหมด : 20 คะแนน

  วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และความเข้าใจในหลักการเลือกวัตถุดิบและการเลี้ยงจุลินทรีย์ที่เหมาะสมสำหรับการผลิตไวน์ผลไม้ น้ำส้มสายชู และเอทานอล

2. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และความเข้าใจถึงความปลอดภัยในการผลิต และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตรได้